Google ที่เรารู้จักกันในนามของเซิร์ทเอ็นจิ้นระดับโลก Google มีการเปลี่ยนตรรกะของการค้นหาตลอดเวลา และในการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับที่ดี หรือให้google แสดงผลการค้นหาให้กับเว็บของเราอยู่ในอันดับต้น นั้นจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ และปัจจัยเหล่านั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามพัฒนาการของ Google ที่ต้องการจะแสดงผลการจัดอันดับที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงต่างๆรวมไปถึงข้อมูลความรู้ ตลอดจนเทคนิคในการทำ SEO นั้นมีอยู่มากมาย ให้ศึกษาค้นคว้า บทความต่างๆที่ให้คำแนะนำ เทคนิคต่างๆเกี่ยวกับการทำ SEO ถูกเขียนขึ้นมากมายชนิดที่ว่า ให้อ่านกันทั้งปีก็อ่านไม่หมด … แต่ไม่ว่าคุณจะอ่านมากเท่าไหร่ ก็ไม่ดีเท่ากับการได้ทดลองทำด้วยตัวเอง
SERP คืออะไร
SERP เป็นคำย่อมาจาก Search Engine Results Page หมายถึง ผลการแสดงอันดับของ Search Engine ดังนั้นสำหรับ Google SERP พูดแบบง่ายๆ ก็คือ หน้าเว็บ Google ที่มันแสดงผลของการค้นหา เวลาเราพิมพ์หาข้อมูลต่างๆนั่นเอง ลิสต์ของหน้าเว็บเพจที่แสดงบน Google จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. Organic SERP Listings – ผลลัพธ์ที่แสดงจากการจัดอันดับตามธรรมชาติ
2. Paid SERP Listing – ผลลัพธ์ที่แสดงจากการลงโฆษณากับ Google หรือจะเรียกว่า Sponsored Links
2. Paid SERP Listing – ผลลัพธ์ที่แสดงจากการลงโฆษณากับ Google หรือจะเรียกว่า Sponsored Links
* สรุป Google SERPs ก็คือ ผลการจัดอันดับที่แสดงบน Google นั่นเอง
* และการที่เรามาทำ SEO ก็เพื่อทำให้เว็บของเราติดอันดับดีๆบน SERPs
* และการที่เรามาทำ SEO ก็เพื่อทำให้เว็บของเราติดอันดับดีๆบน SERPs
การทำ SEO จากการวิเคราะห์ SERPs
ในการทำ SEO ระดับมืออาชีพ การวิเคราะห์ SERPs เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยทั่วไปนั้น SERPs Analysis มักจะนิยมหมายถึง การดูแบบเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ของผลอันดับลิงค์ที่แสดงบนหน้าแรก Google (อันดับ 1 – 10) ใน Keyword ที่เราค้นหา เพื่อหาถึงสัญญาณ หรือ ดูปัจจัยสาเหตุที่ทำให้ ลิงค์ในเว็บเหล่านั้นติดอันดับ โดยปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญๆที่นิยมดูกัน ก็อาทิเช่น Domain Authority (DA), Page Authority (PA), Body Keyword, Links, Page Rank เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะนิยมใช้เครื่องมือในการดู ที่มีมากมายหลายตัวทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
สำหรับมือใหม่ขอแนะนำเครื่องมือ (ฟรี) ที่ไว้สำหรับเช็ค SERPs 2 ตัวคือ
1. SEOquake – ไว้สำหรับดู PR , Title, Meta Description, Keyword, Heading, Text Ratio
2. MozBar – ไว้สำหรับดู Page และ Domain Authority และ Links
2. MozBar – ไว้สำหรับดู Page และ Domain Authority และ Links
วิเคราะห์คู่แข่งจาก SERPs
การที่เราวิเคราะห์ SERPs ก็เพื่อเป็นการดูคู่แข่ง และนำมาประเมินกับตัวเรา ว่าพอจะแข่งขัน สู้ไหวหรือเปล่า ? … แต่โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับผม มักจะไม่ค่อยได้คำนึงถึงจุดนี้มากนัก แต่จากผล SERPs 10 อันดับแรก ผมมักเลือกที่จะดูแบบผ่านๆแต่เจาะลึก เพื่อเก็บข้อมูลนำไปต่อยอด โดยจะคลิกเข้าไปดูในแต่ละอันดับ และเข้าไปเก็บรายละเอียดต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์ ว่าทำไมเว็บนี้หรือหน้าเพจนี้ถึงติดอันดับได้ นอกจากนั้นยังเป็นการเข้าไปหาไอเดีย แนวคิด สำหรับนำมาปรับใช้ กับเว็บของตัวเอง โดยผมมักจะเลือกดูที่
• การตั้งชื่อ (Title)
• การเขียน Meta Description
• การวาง Keyword ในตำแหน่งต่างๆ
• ตัวเนื้อหาในบทความ
• ขนาดความยาวของเนื้อหา
• การจัดวางโครงสร้างของบทความ
• โครงสร้างของทั้งเว็บไซต์
• การวาง Links เข้า Links ออก• องค์ประกอบอื่นๆ เช่น รูปภาพ, คลิป , Social
• การเขียน Meta Description
• การวาง Keyword ในตำแหน่งต่างๆ
• ตัวเนื้อหาในบทความ
• ขนาดความยาวของเนื้อหา
• การจัดวางโครงสร้างของบทความ
• โครงสร้างของทั้งเว็บไซต์
• การวาง Links เข้า Links ออก• องค์ประกอบอื่นๆ เช่น รูปภาพ, คลิป , Social
คนเราเวลาจะทำอะไรสักอย่าง มักจะมีต้นแบบให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่มีใครที่เก่งและทำเป็นทุกเรื่องตั้งแต่เกิด การเรียนรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะให้ดีคือมีครูสอน แต่หากไม่มีครูสอน และต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยใช้วิธี “ครูพักลักจำ” เช่นดังสุภาษิตจีนบทหนึ่งที่ว่า “ก่าเจี๊ยะ บ่อก่าเจาะ”(สอนกินไม่สอนทำ) หมายความว่า ถ้าไม่มีใครสอน แต่อยากเก่ง ต้องหมั่นสังเกต จดจำ และนำเอามาประยุกต์ใช้ ฝึกฝนลองผิดลองถูก
ในการเรียนรู้การทำ SEO ด้วยวิธีการนำเอาผลจาก SERPs มาวิเคราะห์ ในเบื้องต้นนั้น โดยทั่วไปอาจจะแค่เป็นการเข้าไปดูการปรับแต่ง Onpage ของคู่แข่ง แต่หากเรารู้จักดูให้ลึก เจาะลงในรายละเอียด ทั้ง Content ทั้ง Web Structure และตัว Onpage SEO เอง ดูไปก็นำมาคิด ตั้งเป็นข้อสังเกต ตั้งเป็นคำถามถามกับตัวเอง แล้วพยายามไปค้นหาคำตอบนั้น และนำมาทดลองปรับใช้กับงานของตนเอง ย่อมจะสร้างประโยชน์ให้กับเราได้มากกว่า และที่สำคัญคือ ย่อมดีกว่าการไปอ่าน ไปฟัง ไปเรียนมา แล้วปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น